ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เทคโนโลยีเข้ามีอิทธิพลในทุกๆด้าน หลายธุรกิจจึงพยายามนำระบบสารสนเทศเข้ามาพัฒนาองค์การของตนเอง แต่การที่เราจะนำข้อมูลต่าง ๆ ทำออกมาในรูปแบบระบบสารสนเทศ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือนั้น ข้อมูลที่จะต้องนำไปทำระบบสารสนเทศจะต้องการจัดเก็บข้อมูลที่ถูกต้อง ดังนั้นฐานข้อมูล (Database) ได้เข้ามามีบทบาทอย่างสูงในยุคของเทคโนโลยีสารสนเทศ หลายองค์การจึงได้นำเทคโนโลยีฐานข้อมูลมาใช้งานเพื่อให้ได้เปรียบคู่แข่งขันในเชิงการค้า นั่นหมายถึง ความสามารถในการนำข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้ในฐานข้อมูลมาใช้ประโยชน์ด้วยการเรียกดูข้อมูล แสดงรายงาน รวมทั้งการนำข้อมูลมาใช้ประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจ และการวางแผน และถ้าจะกล่าวถึงระบบการจัดส่งสินค้าหรือจดหมายในประเทศไทยอย่างบริษัทไปรษณีย์ไทย ซึ่งในขณะนี้ก็ได้นำระบบติดตามและตรวจสอบสิ่งของฝากส่งทางไปรษณีย์เข้ามาใช้ในองค์การและมีแนวโน้มที่จะพัฒนาไปเรื่อยๆ จากเดิมก่อนที่ไปรษณีย์ไทยจะนำระบบนี้เข้ามาใช้กับองค์การ ผู้ใช้บริการไม่สามารถทราบถึงระยะเวลาในการจัดส่งและสถานะสินค้าของตนเองได้เลย แต่หลังจากที่บริษัทไปรษณีย์ไทยได้นำระบบนี้เข้ามาใช้ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ใช้บริการได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นบริการสำหรับการติดตามและตรวจสอบสิ่งของที่มีการฝากส่งภายในและเทศไทยและระหว่างประเทศ โดยผู้ที่ใช้บริการสามารถติดตามผลของการฝากส่งสิ่งของทางไปรษณีย์ว่าถึงมือผู้รับแล้วหรือยังชื่อของระบบนี้คือ “Track and Trace” หรือ “ตรวจสอบสถานะEMS และไปรษณีย์ลงทะเบียน” โดยโครงสร้างของระบบตรวจสอบและติดตามการจัดส่งสิ่งของไปรษณีย์นี้ ประกอบไปด้วย 4 ส่วน คือส่วนการทำงานที่ทำการไปรษณีย์ ส่วนการทำงานฮับต้นสังกัด ส่วนการทำงานศูนย์ไปรษณีย์ และส่วนของลูกค้า
Archive for กันยายน, 2010
21 ก.ย.
Food court POS system หรือ ระบบศูนย์อาหาร Group 7 MBA Night1
Food court POS system หรือระบบศูนย์อาหาร
Food court POS system หรือระบบศูนย์อาหาร อาจเป็นสิ่งที่คนเมืองคุ้นเคยดี เนื่องจากศูนย์อาหารหลายแห่งตั้งอยู่ในซูเปอร์สโตร์ หรือ ดิสเคาน์สโตร์ โดยทั่วไปจะมีการนำเงินสดไปแลกเป็นคูปองแทนเงินสดไว้สำหรับซื้ออาหารในศูนย์อาหาร ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารในศูนย์อาหาร เพราะเพื่อเป็นการป้องกันการศูนย์หายเงินสดระหว่างวันที่ทำการค้าขายอาหารนั้นเอง แต่ข้อเสียสำหรับคูปองแทนเงินสด คือในบางครั้งคูปองอาจเกิดการฉีกขาด หรือเปียกน้ำเสียหายได้นั้น และยังยุ่งยากในขั้นตอนการตรวจนับคูปองสำหรับให้ผู้บริโภคหรือตรวจนับยอดคูปองคงเหลือ ผู้ประกอบการศูนย์อาหารได้เล็งเห็นถึงปัญหาเหล่านี้ จึงทำการปรับเปลี่ยนระบบโดยใช้ระบบไอทีการ์ดเงินสดอิเล็กทรอนิกส์ (Cash card) แทนคูปองเงินสด ข้อดีของการใช้ cash card ที่เห็นชัดเจน คือความสะดวกสบายที่ลูกค้าได้รับ จากที่เคยต้องต่อแถวยาว รอนับคูปอง ทอนเงิน ก็เพียงแค่ยื่นเงินให้ตามที่ต้องการใช้ แล้วรับ Cash card ไปซื้ออาหาร ได้เหมือนเดิม การ์ดใบเดียวก็ยังได้ซื้ออาหารได้ทุกร้านในศูนย์ อาหารนั้นๆ ไม่ต้องมานับคูปองให้ยุ่งยากอีกต่อไป
19 ก.ย.
One device does it all: NFC Technology for Mobile(Mobile on data base)
One device does it all: NFC Technology for Mobile
ในปัจจุบันคงจะกล่าวได้ว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้นได้ก้าวไกลไปจากอดีตอยู่มาก จากเดิมที่ถูกผลิตขึ้นมาเพียงเพื่อไว้สำหรับสื่อสารทางไกลเท่านั้น แต่ในขณะนี้ ด้วยพัฒนาการของเทคโนโลยีต่างๆ โทรศัพท์เคลื่อนที่จึงไม่ได้มีหน้าที่ไว้เพียงสำหรับติดต่อสื่อสารแค่นั้นอีกต่อไป แต่มันได้เพิ่มเติมหน้าที่อันหลากหลายและน่าทึ่งเข้าไป ไล่มาตั้งแต่ เครื่องเล่นเกม กล้องดิจิตอล เครื่องเล่นเอ็มพีสาม พีดีเอ อุปกรณ์เนวิเกเตอร์ หรือแม้กระทั่งนวัตกรรมล่าสุดที่เปลี่ยนให้โทรศัพท์เคลื่อนที่ไปเป็น ในสิ่งที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงฝั่งตรงข้าม นั่นคือ กระเป๋าตังค์
Near Field Communication (NFC): Young Blood of Mobile Technology
เทคโนโลยี NFC เป็นการนำเอา RFID มารวมเข้าไว้กับ Simcard ภายในโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อสำหรับการจัดเก็บบันทึกข้อมูล รวมทั้งสามารถทำให้โทรศัพท์เคลื่อนที่อ่านข้อมูลใน RFID ได้อีกด้วย ด้วยสิ่งนี้เหมือนเป็นการทำให้โทรศัพท์กลายเป็น key หรือกุญแจที่จะนำไปสู่ฐานข้อมูล (Database) ของผู้ให้บริการหรือตัวโทรศัพท์นั่นเองที่จะเป็นแหล่งของข้อมูล เพื่อให้ตัวผู้ใช้งานเกิดความสะดวกมากยิ่งขึ้นในการทำธุรกรรมหรือกิจกรรมต่างๆด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่เพียงเครื่องเดียว นั่นเอง
16 ก.ย.
นวัตกรรมไอทีกับระบบการขนส่งทางเรือ
แนวโน้มปัจจุบันของธุรกิจท่าเรือและการขนส่งทางทะเล
การท่าเรือฯ เร่งยกระดับให้บริการท่าเรืออิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบในปีนี้ วางเป้าท่าเรือแหลมฉบังเป็น Innovative Port แข่งท่าเรือใกล้เคียง
จากสภาพการแข่งขันทางธุรกิจท่าเรือและการขนส่งทางทะเล (Port and Marine Transportation) ของโลกทวีความรุนแรงมากขึ้น อันเนื่องมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทั้งในส่วนของการพัฒนาท่าเทียบเรือและเรือสินค้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อแสวงหาความประหยัดต่อขนาด (Economy to Scale) ของการขนส่ง
การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) จึงมุ่งพัฒนาการให้บริการท่าเรือ โดยใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในการขนถ่ายสินค้า/ตู้สินค้า และการให้บริการที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ เพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งๆ ขึ้น ทั้งนี้เพื่อดึงดูดให้เรือสินค้าขนาดใหญ่เลือกใช้ท่าเรือแหลมฉบังเป็นจุดจอดเรือ
แนวโน้มการขนส่งทางทะเลขยายตัว
แนวโน้มสำหรับธุรกิจด้านการขนส่งทางทะเลไม่ว่าจะเป็นกิจการทางเรือ สายการเดินเรือ ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องคาดว่าเป็นไปในทางที่ดีขึ้นและน่าจะมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นบวก
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงและอุปสรรคอื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมัน และดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ภาวะเงินเฟ้อที่ปรับตัวตามราคาน้ำมันที่สูงขึ้น รวมถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาก ผู้ประกอบการจึงควรต้องมีการบริหารจัดการเรื่องต้นทุนค่าใช้จ่ายให้ดีขึ้น ซึ่งการท่าเรือฯ มีนโยบายที่จะมีส่วนช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการขนส่งให้กับผู้ประกอบการ โดยมุ่งปรับปรุงการให้บริการให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น
การท่าเรือฯ มุ่งพัฒนาการบริหารจัดการและการบริการให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในงานบริการต่างๆ เพื่อก้าวไปสู่การเป็นท่าเรืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Port) อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีระบบเทคโนโลยีหลักที่นำมาใช้ปฏิบัติการที่ท่าเรือกรุงเทพ ได้แก่ ระบบการให้บริการท่าเทียบเรือตู้สินค้า (Container Terminal Management System: CTMS) เพื่อการทดแทนระบบเดิมที่ใช้อยู่ และระบบการให้บริการด้านเรือ สินค้า คลังสินค้า เครื่องมือทุ่นแรง และใบแจ้งหนี้ต่างๆ (Vessel & Cargo Management System:VCMS) ระบบควบคุมการผ่านเข้าออกประตูอัตโนมัติ หรือ e-Gate เป็นระบบที่มีการนำระบบ RFID (Radio Frequency Identification) มาใช้ อีกทั้งการพัฒนาและติดตั้งระบบจัดเก็บค่ายานพาหนะผ่านท่า หรือ e-Toll Collection System ที่ท่าเรือแหลมฉบัง โดยได้นำระบบ OCR (Optical Character Recognition) และ RFID (Radio Frequency Identification) มาใช้ในการตรวจสอบข้อมูลตู้สินค้า บุคคล ยานพาหนะ ค่าธรรมเนียม และจุดหมายปลายทาง เชื่อมโยงข้อมูลกับระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีหลักการทำงานอัจฉริยะ โดยกล้องดิจิตอลที่ติดตั้งบริเวณทางเข้าจะจับข้อมูลเบอร์ตู้กลับไปยังฐานข้อมูล ทันทีมีรถหัวลากที่ติดระบบ RFID ผ่านเข้ามา ซึ่งโดยเฉลี่ยแต่ละคันใช้เวลาถึง 3 นาทีในการผ่านประตู แต่ระบบดังกล่าวใช้เวลาไม่เกิน 30 วินาทีต่อคัน เป็นการติดตามการส่งข้อมูลที่รวดเร็วมากขึ้น
และโครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้นที่ท่าเรือแหลมฉบังคือ ศูนย์ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Data Center ที่ทำหน้าที่เชื่อมเครือข่ายระหว่างท่าเรือแหลมฉบังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ประกอบการท่าเรือ กรมศุลกากร สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เกี่ยวกับข้อมูลต่างๆ ได้แก่ ข้อมูลรายการสินค้า (e-manifest) รายการตู้สินค้า (Container List) โดยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบ Real Time ซึ่งจะช่วยให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลกับ Terminal Operator และส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ เพราะฉะนั้นการเชื่อมต่อกับระบบ National Single Window ของกรมศุลกากร ก็จะสามารถทำได้ง่ายขึ้น
RFID (Radio Frequency Identification)
RFIDเริ่มเข้ามามีบทบาทมากต่ออุตสาหกรรมและระบบโลจิสติกส์ ซึ่งต้องอาศัยความรวดเร็วและความถูกต้อง รวมไปถึงความปลอดภัยที่สามารถติดตามสถานะของสินค้าในการขนส่งระหว่างประเทศ
หากย้อนกลับมาที่ประเทศไทยภาคอุตสาหกรรมและภาคโลจิสติกส์ ยังมีการขับเคลื่อนในเรื่องนี้น้อยมาก ผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการบางรายยังไม่รู้จัก RFID อย่างไรก็ดี บทบาทของ RFID ที่จะมีต่อภาคอุตสาหกรรมและการกระจายสินค้า ซึ่งจะก่อให้เกิดการแข่งขันทั้งในด้านต้นทุนและสถานภาพการส่งมอบแบบทันเวลา ทำให้ระบบโลจิสติกส์ ถูกนำมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพ ทั้งในระดับภาคธุรกิจและระดับประเทศ โดยกระบวนการในการขนส่งภายใต้โซ่อุปทาน ความรวดเร็วและถูกต้องในการส่งมอบ จะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการอยู่รอดของธุรกิจในอนาคต
RFID กำลังมีบทบาทต่อการส่งสินค้าออกด้วยระบบตู้คอนเทนเนอร์ระบบ RFID จะเข้ามามีบทบาทในฐานะเป็น Electronic Seal ซึ่งติดอยู่ที่ตู้คอนเทนเนอร์ในการแสดงสถานะ (Status) ซึ่งจะทำให้ผู้รับสินค้าและผู้ส่งสินค้าสามารถใช้ในการติดตาม Tracking การเดินทางของสินค้าในระยะทางไกล เช่น การขนส่งสินค้าทางเรือระหว่างประเทศ
RFID หรือ Radio Frequency Identification เป็นระบบอัจฉริยะ ภายใต้ Nano Technology ที่กำลังจะมีบทบาทเข้ามาแทนที่ระบบบาร์โค้ดโดยระบบใหม่นี้จะใช้ระบบคลื่นของความถี่วิทยุ ช่วยในการอ่านรหัสและข้อมูลของสินค้าหรือข้อมูลของฉลากได้โดยไม่ต้องมีการสัมผัส ในขณะที่สินค้ายังเคลื่อนไหวพร้อมกันได้คราวละหลายชิ้น (Tag) โดย RFID จะสามารถอ่านข้อมูลได้รวดเร็ว ด้วยความเร็วสูง 50 ชิ้นต่อนาที และยังสามารถอ่านค่าของสินค้านั้นได้แม้จะอยู่ในระยะไกล
ตัวอย่างการนำโปรแกรมเข้ามาใช้ในระบบการขนส่งทางน้ำ
โปรแกรม Goods Control List (ระบบใบกำกับตู้สินค้า )
Goods Control List เป็นบริการรับ-ส่งเอกสารใบกำกับตู้สินค้าหรือคอนเทนเนอร์ ผ่านระบบเครือข่ายของ TIFFA ระหว่างผู้ประกอบการกับกรมศุลกากร โดยผู้ประกอบการจะต้องเป็นผู้ที่รับผิดชอบบรรจุตู้ ซึ่งอาจจะเป็นผู้ส่งออก ตัวแทน หรือ Terminal จะต้องจัดส่งข้อมูล Goods Control List นี้ก่อนที่ตู้สินค้าจะผ่านเข้าสถานีรับบรรทุก (Sub Gate) ของท่าที่จะส่งออก
Goods Control List เดิมเรียก E-Container และปัจจุบันได้ถูกพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อรองรับระบบ Paperless ของกรมศุลกากร เพื่อให้สามารถรองรับการส่งสินค้าออกทั้งทางเรือ ทางบก และทางอากาศ โดยข้อมูลสำคัญที่ต้องแจ้งตามแบบฟอร์มประกอบด้วยเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ของผู้ส่งออก เลขที่ใบขนสินค้าออก ท่าที่ส่งออก ชื่อเรือ/เที่ยวเรือ หมายเลขคอนเทนเนอร์ของแต่ละตู้ จำนวนหีบห่อสินค้าในแต่ละตู้ และน้ำหนักรวมหีบห่อของสินค้าในแต่ละตู้ เมื่อจัดทำเรียบร้อยแล้วจะต้องทำการลงลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) แล้วจึงส่งผ่านเข้ามายังเครือข่ายของ TIFFA เพื่อส่งต่อไปยังกรมศุลกากรต่อไป ปัจจุบันกรมศุลกากรได้เปิดรับการตรวจสอบเอกสารนี้ในท่าเรือ 2 แห่ง คือ ท่าเรือกรุงเทพ และท่าเรือแหลมฉบัง
ขั้นตอนการงานของระบบ Goods Control List
1. | ผู้ส่งออกหรือตัวแทนยื่นใบขนสินค้าขาออกโดยใช้โปรแกรมใบขน Ezy Gov. ส่งข้อมูล EDI / XML ลงลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) เข้ากรมศุลกากร เมื่อได้รับตอบกลับเลขที่ใบขนสินค้าแล้วให้ทำการเปิดโปรแกรม Goods Control List และทำการ load ข้อมูลจากใบขน ซึ่งสามารถนำข้อมูลมาได้ประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์เพื่อเตรียมทำใบกำกับตู้คอนเทนเนอร์ (ทำหลังจากที่บรรจุสินค้าที่จะส่งออกเข้าตู้คอนเทนเนอร์เรียบร้อยแล้ว) ดังภาพ |
2. | คีย์ข้อมูลเพิ่มลงในโปรแกรม Goods Control List เช่น หมายเลขคอนเทนเนอร์ของแต่ละตู้ จำนวนหีบห่อสินค้าในแต่ละตู้ น้ำหนักรวมหีบห่อ (Gross Weight) ของสินค้าในตู้ |
3. | ส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย TIFFA เข้าไปกรมศุลกากร ก่อนส่งต้องลงลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Sign) ให้เรียบร้อยก่อน |
4. | หากต้องการแก้ไขข้อมูลที่ส่งไปแล้ว สามารถแก้ไขได้ก่อนที่รถจะผ่านเข้าสถานีรับบรรทุก (SUB GATE) ของท่าที่ส่งออก |
5. | เมื่อได้รับข้อมูลตอบกลับจากกรมศุลกากรแล้ว ให้ทำการพิมพ์ใบกำกับคอนเทนเนอร์หรือใบขนย้ายสินค้า และให้พนักงานขับรถนำเอกสารนั้นไปยื่นให้แก่เจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากรที่ประจำอยู่ ณ สถานีรับบรรทุก (SUB GATE) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถัดจากเครื่องชั่งน้ำหนัก |
6. | เมื่อรถเข้าถึง SUB GATE เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบหมายเลขคอนเทนเนอร์ หากถูกต้องจะรับรองการบรรทุกให้อัตโนมัติ ก่อนที่จะนำตู้คอนเทนเนอร์ไปบรรทุกลงเรือ
ประโยชน์จากการใช้ระบบ Goods Control List
อ้างอิงข้อมูลจาก http://www.tiffaedi.com/elogistics1.asp บทสรุป เนื่องจากปัจจุบันการขนส่งทางน้ำถือเป็นช่องทางที่สำคัญและได้รับความนิยมมากของประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยมีเครือข่ายการเชื่อมโยงทางคมนาคมที่สำคัญหลายสายกับประเทศลาว พม่า เวียดนาม กัมพูชา และจีน อีกทั้งปริมาณในการขนส่งได้ในปริมาณที่มากกว่าช่องทางอื่นๆ ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งทางน้ำจึงได้พัฒนาการรูปแบบการขนส่งให้ทันสมัยโดยนำวิวัฒนาการเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในกระบวนการทำงานไม่ว่าจะเป็นการบรรจุ หรือ การขนย้าย รวมถึงการตรวจสอบสินค้า ให้มีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงทำให้ต้นทุนของกระบวนการทำงานลดน้อยลง เช่น จากเดิมมีการใช้พนักงานในการตรวจนับสินค้า จึงทำให้เรือที่เข้ามาจอดรอเพื่อขนส่งสินค้าต้องใช้เวลานานในการจอดรอ ทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน , น้ำมัน และเวลา เป็นต้น |
16 ก.ย.
เครือข่ายจราจรในอนาคต By Group 5
เครือข่ายการจราจรในอนาคต
ปัจจุบันมีหน่วยงานภาครัฐหลายหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบจราจรและการขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นภารกิจด้านการจัดการการจราจรบนโครงข่ายถนนและทางด่วน การให้บริการสาธารณะในรูปแบบต่างๆ โดยแต่ละหน่วยงานได้ทำการเผยแพร่ข้อมูลของตนผ่านสื่อต่างๆ โดยใช้ช่องทางที่เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน ซึ่งคือ การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านทางเว็บไซต์ของระบบอินเตอร์เนต ซึ่งข้อมูลเหล่านี้กระจัดกระจายอยู่ตามหน่วยงานต่าง ๆ ในปัจจุบันจึงยังไม่มีแหล่งข้อมูลที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลทั้งหมด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีหน่วยงานกลางที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมข้อมูลทางด้านการจราจรและขนส่งจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลการเดินทางได้อย่างครบถ้วนภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว สามารถนำข้อมูลไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกรูปแบบการเดินทางที่เหมาะสมในสถานะการณ์ต่างๆ ได้อย่างถูกต้องนั้น และเพื่อให้สามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ ทั้งหน่วยงานภายในกระทรวงคมนาคมและการเผยแพร่ข้อมูลให้แก่ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ
โดยการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์และพัฒนาให้ระบบคมนาคมดีขึ้น และเพื่อความสะดวกสำหรับการเดินทางและความปลอดภัย คือการนำ “ระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะ ” หรือ ITS – Intelligent Transport Systems เข้ามาใช้ในการคมนาคมในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ITS เป็นระบบที่รวมเอาเทคโนโลยีทางด้านข้อมูล อิเล็กทรอนิคคอมพิวเตอร์ และ โทรคมนาคม มาผสมผสานให้เกิดการประยุกต์ใช้งาน เช่น
16 ก.ย.
นวัตกรรมไอที กับ ธุรกิจศูนย์บริการรถยนต์ กลุ่มที่ 9
ธุรกิจศูนย์บริการรถยนต์
ในแต่ละปี อัตราความต้องการรถยนต์มีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งวัดได้จากยอดขายของบรรดาค่ายรถต่างๆ และความแออัดบนท้องถนนที่มีให้เห็นอยู่ทุกวัน สำหรับบางคนแล้วรถยนต์กลายเป็นสิ่งที่ขาดจากกันไม่ได้ ด้วยเหตุผลสำคัญคือ ความสะดวกในการเดินทาง
จากจำนวนรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจศูนย์บริการรถยนต์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากเช่นกัน แต่ละแห่งก็จะมีมาตรฐานในการให้บริการที่แตกต่างกันไป ถ้าเปรียบเทียบการใช้ศูนย์บริการรถยนต์กับบริการทางการแพทย์ ในการดูแลรักษาผู้ป่วย หรือให้คำแนะนำการดูแลรักษาสุขภาพ แพทย์จำเป็นต้องทราบประวัติของผู้ป่วย และการรักษาก่อนหน้า เพื่อวิเคราะห์และให้การรักษาที่ถูกต้อง เช่นเดียวกัน รถยนต์แต่ละคัน ก็ควรจะมีข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถ การใช้งาน และการบำรุงรักษา เพื่อที่ทางศูนย์บริการรถยนต์จะสามารถซ่อม บำรุงรักษารถยนต์ได้ถูกทาง แต่ในปัจจุบันการนำรถยนต์เข้าศูนย์บริการทั่วไป จะเป็นการตรวจเช็ครถยนต์และซ่อมบำรุงตามสภาพของรถยนต์ในขณะนั้น ยกเว้นจะนำเข้าศูนย์บริการของแบรนด์รถยนต์นั้นๆ จึงจะมีรายละเอียดข้อมูลของรถยนต์อยู่ กรณีนี้จึงควรมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการพัฒนาระบบฐานข้อมูลกลางของรถยนต์ เพื่ออำนวยความสะดวกทั้งกับเจ้าของรถยนต์และศูนย์บริการ ในการดูแลและบำรุงรักษารถยนต์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
15 ก.ย.
พัฒนาการศึกษาในโรงเรียนด้วยวัตกรรมไอที – Group 4
พัฒนาการศึกษาในโรงเรียนด้วยวัตกรรมไอที
ประเทศไทยในตอนนี้เป็นช่วงที่ให้ความสนใจกับการพัฒนาเศรษฐกิจให้มีการเจริญเติบโต มีการพัฒนาทั้งด้านโทรคมนาคม การขนส่ง การติดต่อสื่อสาร ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะทำให้ประเทศเกิดการพัฒนาให้ก้าวไกล แต่ทางด้านการศึกษาซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาประเทศชาติกลับยังไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควรโดยเฉพาะการศึกษาในระดับโรงเรียน
การศึกษานั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญ ดังอย่างที่ผู้หลักผู้ใหญ่มักจะปลูกฝังเด็กให้รักและตั้งใจในการเรียนเสมอ หรือคำพูดที่ติดหูหลายคนว่า “ชาติจะเจริญหากเด็กมีความรู้” คำพูดดังกล่าวนั้นเป็นจริงอย่างไม่ต้องสงสัยเห็นได้จากผู้คนที่มีตำแหน่งใหญ่โตเหล่านั้นก็ได้รับการศึกษาที่ดีและใส่ใจในการเรียนเสมอ ถึงอย่างไรก็ตามการเรียนที่ครบวงจรทั้งเรื่องของเทคโนโลยี การเรียนรู้ด้วยตนเอง สิ่งที่สนับสนุนการเรียนนั้นจะพบว่า ในระดับการศึกษาของโรงเรียนยังไม่มีระบบที่ทันสมัยเท่ากับการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ที่มีการอำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆที่มากกว่าระดับโรงเรียน ทั้งเรื่องการแจ้งข่าวสารต่างๆ การประชาสัมพันธ์ ระบบการเรียนรู้นอกห้องเรียน หรือแม้แต่กระทั้งการส่งงาน ที่ได้รับมอบหมาย
15 ก.ย.
สร้างศักยภาพกรมศุลกากรแห่งประเทศไทยด้วยระบบ E-Paperless (Group 6)
Paperless คืออะไร คือการลดการใช้กระดาษในการทำงานและในชีวิตประจำวัน เพื่อความประหยัด สะดวก รวดเร็ว และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างอย่างคุ้มค่าอันจะนำไปสู่การสงวนรักษาทรัพยากรธรรมชาติและพลังงาน
คำถามต่อ Paperless ?
– เพิ่มงานหรือเปล่า ?
– ยุ่งยากกว่าเดิมหรือไม่ ?
– จะได้อะไรจากระบบนี้ ?
– ใครจะต้องใช้ระบบนี้ ? อ่านเพิ่มเติม
15 ก.ย.
อัญมณีไทย ใช้ไอทีเป็นตัวหนุน…เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส Group8
บริษัท Grace of Art ผู้ผลิตอัญมณีไทย ใช้ไอทีเป็นตัวหนุน…เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส
ด้วยความเป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กที่มีรายได้หลักจากการรับจ้างผลิตสินค้าอัญมณีตามความต้องการของลูกค้าจากต่างประเทศ ครั้นเมื่อสภาพตลาดอัญมณีโลกเริ่มเปลี่ยนและมีคู่แข่งที่เป็นผู้รับจ้างผลิตจากจีนเข้ามาแย่งลูกค้าด้วยกลยุทธ์ราคาที่ต่ำกว่า ทำให้ผู้ประกอบการอัญมณีไทยอย่าง บริษัท Grace of Art จำกัด ต้องปรับกระบวนท่าทางธุรกิจอย่างมากจนกระทั่งกลับมาแข่งขันในตลาดอัญมณีโลกได้อย่างสง่างามอีกครั้งหนึ่ง…ซึ่งเบื้องหลังของความสำเร็จครั้งนี้เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือไอที (IT: Information Technology) มีบทบาทอย่างมาก….
จากคำบอกเล่าของผู้บริหารวัย 27 ปีอย่าง คุณธันยพร เชี่ยวหัตถ์พงษ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและส่งออก ทายาทรุ่นสองที่เข้ามาบริหารกิจการพบว่า บริษัท Grace of Art จำกัด ผู้ผลิตอัญมณีไทยขนาดกลางโดนแรงกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรงจนรายได้ถดถอยต่อเนื่อง ทำให้บริษัทต้องตัดสินใจปรับกลยุทธ์ธุรกิจจากการรับจ้างผลิตตามคำสั่งซื้อของลูกค้า มาเป็นการออกแบบเครื่องประดับด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นของตนเองแล้วนำไปเสนอขายให้ลูกค้าแทน ซึ่งด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวคุณธันยพร เชื่อว่าจะสามารถช่วยให้บริษัทพอจะมียอดสั่งซื้อเข้ามาทดแทนส่วนที่หายไป อ่านเพิ่มเติม
13 ก.ย.
E-Book Reader
ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่การเข้ามาของ คอมพิวเตอร์และเว็บไซต์จะทำให้การอ่านหนังสือที่ทำจากกระดาษหายไป เพราะเข้าใจว่าการพกพาหนังสือสะดวกกว่า ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า ไม่ต้องเชื่อมต่อหรือดาวน์โหลดก่อนเพื่อที่จะอ่าน แต่ขณะนี้ความคิดนั้นได้เริ่มเปลี่ยนไปแล้ว เพราะ e-Book Reader ที่ผลิตออกมามีขนาดพอเหมาะ พกพาไปไหนมาไหนได้เหมือนกับหนังสือจริง ๆ น้ำหนักเบา และสามารถเก็บหนังสือได้หลายเล่ม และหลายประเภท ถึงแม้ว่า e-Book Reader จะยังไม่ประสบความสำเร็จมากนักเพราะว่าจำนวนคนที่ชอบอ่านหนังสือยังมีไม่มาก และบางคนยังคุ้นเคยและชอบหนังสือเป็นเล่ม ๆ มากกว่า แต่ e-Book Reader ก็มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์ทางการตลาดของ e-Book Reader ในตลาดสหรัฐอเมริกา
จากรายงานการสำรวจของ “MRI’s Fall 2009 Survey of the American Consumer” เกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อ e-Book Reader ในสหรัฐอเมริกาของ Mediamark Research & Intelligence (MRI, 2009:1-2) และจากคำกล่าวของ Anne Marie Kelly, SVP, Marketing & Strategic Planning ของ Mediamark Research & Intelligence พบว่าผู้ที่ซื้อส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีการศึกษาดี (ระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า), มีรายได้สูง, ใช้เวลาท่องอินเทอร์เน็ตนาน หรือ Web-centric, เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง, มีอายุอยู่ในช่วง 35-54 ปี, มีบ้านเป็นของตนเอง และมีรายได้ต่อปี 100,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ขึ้นไป อ่านเพิ่มเติม